โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง ข้อความ อื่นที่กําหนดให้มีในฉลาก ตามพระราชบัญญัติปุ๋ย พ.ศ. ๒๕๑๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติปุ๋ย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐ พ.ศ. ๒๕๕๒
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๒๑ (๔) (ช) มาตรา ๒๑ (๗) มาตรา ๒๑/๑ (๔) (ฌ) มาตรา ๒๑/๑ (๗) มาตรา ๒๑/๒ (๔) (ฉ) และมาตรา ๒๑/๒ (๗) แห่ง พระราชบัญญัติปุ๋ย พ.ศ. ๒๕๑๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติปุ๋ย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐ อัน เป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๓ มาตรา ๔๑ มาตรา ๔๓ และมาตรา ๔๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร ไทย บัญญัติให้กระทําได้โดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวง เกษตรและสหกรณ์ออกประกาศกําหนดไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง ข้อความอื่น ที่รัฐมนตรีกําหนดให้มีในฉลากปุ๋ย พ.ศ. ๒๕๕๕”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง ข้อความอื่นที่ กําหนดให้มีในฉลาก ตามพระราชบัญญัติปุ๋ย พ.ศ. ๒๕๑๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติปุ๋ย (ฉบับ ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐ พ.ศ. ๒๕๕๒ ประกาศ ณ วันที่ ๑๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๒
ข้อ ๔ ให้ข้อความดังต่อไปนี้เป็นข้อความอื่นที่รัฐมนตรีกําหนดให้มีในฉลากปุ๋ย
(๑) ให้ระบุชื่อทางเคมี หรือชื่อสามัญ ถ้าปุ๋ยเคมีนั้นมีชื่อทางเคมีหรือชื่อสามัญ
(๒) ให้ระบุสูตรปุ๋ยเคมีเป็นเลขจำนวนเต็ม โดยคิดปริมาณธาตุอาหารรับรอง เป็น ร้อยละโดยน้ำหนัก เรียงตามลำดับธาตุอาหารรับรองคั่นด้วยขีด (-) ตามลำดับดังนี้ ไนโตรเจนทั้งหมด (N) – ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ (P2O5) – โพแทสเซียมที่ละลายน้ำ (K2O)
(๓) ในกรณีหินฟอสเฟตต้องแจ้งปริมาณฟอสฟอรัสทั้งหมด (Total P2O5) และความ ละเอียดบอกขนาดเป็นเมช (Mesh) เป็นร้อยละโดยน้ำหนักไว้ใต้สูตรปุ๋ยเคมี
(๔) ในกรณีของปุ๋ยอินทรีย์เคมี ให้ระบุปริมาณอินทรียวัตถุ (Organic Matter) เป็น ร้อยละโดยน้ำหนักไว้ใต้สูตรปุ๋ยเคมี
(๕) ให้ระบุข้อความว่า “ทะเบียนปุ๋ยเคมีเลขที่……/…… (กรมวิชาการเกษตร)” โดย ระบุเลขที่ทะเบียน/พ.ศ. …. ที่ได้รับใบสําคัญการขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมีไว้ด้านซ้ายของฉลาก
(๖) ให้ระบุข้อความว่า “ทะเบียนปุ๋ยชีวภาพเลขที่……/…… (กรมวิชาการเกษตร)” โดยระบุเลขที่ทะเบียน/พ.ศ. …. ที่ได้รับใบสําคัญการขึ้นทะเบียนปุ๋ยชีวภาพไว้ด้านซ้ายของฉลาก
(๗) ให้ระบุข้อความว่า “ทะเบียนปุ๋ยอินทรีย์เลขที่……/…… (กรมวิชาการเกษตร)” โดยระบุเลขที่ทะเบียน/พ.ศ. …. ที่ได้รับใบสําคัญการขึ้นทะเบียนปุ๋ยอินทรีย์ไว้ด้านซ้ายของฉลาก
(๘) ให้ระบุข้อความว่า “ใบรับแจ้งเลขที่ ปฐ. …../…… (กรมวิชาการเกษตร)” โดย ระบุเลขที่หนังสือสำคัญรับแจ้งปุ๋ยเคมีมาตรฐาน/พ.ศ. …. ที่ได้รับไว้ด้านซ้ายของฉลาก
(๙) ให้ระบุข้อความว่า “ใบรับแจ้งเลขที่ รส. …../…… (กรมวิชาการเกษตร)” โดย ระบุเลขที่หนังสือสำคัญรับแจ้งปุ๋ยเคมีธาตุอาหารรอง ธาตุอาหารเสริม/พ.ศ. …. ที่ได้รับไว้ด้านซ้ายของฉลาก
(๑๐) ให้ระบุข้อความว่า “ไม่แนะนําให้ใช้เป็นปุ๋ยข้าว” สําหรับปุ๋ยเคมีสูตรซ้ํากับสูตร ปุ๋ยข้าว หรือสูตรปุ๋ยเคมีที่มีอัตราส่วนธาตุอาหารพืชซ้ํากับสูตรปุ๋ยข้าวที่กรมการข้าวแนะนํา เนื่องจาก มีไนเทรตไนโตรเจน (Nitrate Nitrogen) นับรวมอยู่ในไนโตรเจนทั้งหมด (Total Nitrogen) ที่ขอขึ้น ทะเบียน
(๑๑) ให้ระบุข้อความว่า “ถ้าใช้เป็นปุ๋ยข้าวแนะนําให้ใช้ในนาดินเหนียว” ในกรณีที่ ปุ๋ยเคมีนั้นใช้เป็นปุ๋ยข้าวที่มีธาตุอาหารรับรอง ไนโตรเจนและฟอสฟอรัส
(๑๒) ให้ระบุข้อความว่า “ถ้าใช้เป็นปุ๋ยข้าวแนะนําให้ใช้ในนาดินทราย” ในกรณีที่ ปุ๋ยเคมีนั้นใช้เป็นปุ๋ยข้าวที่มีธาตุอาหารรับรองไนโตรเจน ฟอสฟอรัสและโพแทสเซียม
(๑๓) ให้ระบุข้อความว่า “ปุ๋ยเหลวอาจมีก๊าซเกิดขึ้นและอาจเป็นอันตรายได้ง่าย ควรเปิดด้วยความระมัดระวัง” เป็นอักษรสีแดง อ่านได้ชัดเจน สำหรับปุ๋ยเคมีและปุ๋ยอินทรีย์ที่เป็นปุ๋ยเหลว
(๑๔) ให้ระบุข้อความว่า “ควรคลุกเคล้าปุ๋ยให้เข้ากันก่อนใช้” อ่านได้ชัดเจน สำหรับ ปุ๋ยชนิดเม็ดที่ผลิตแบบไม่เป็นเนื้อเดียวกัน (Bulk Blending)
(๑๕) ให้ระบุชื่อและสถานที่ทําการของผู้นําเข้าปุ๋ยและระบุชื่อผู้ผลิต ประเทศที่ผลิต ในกรณีที่เป็นปุ๋ยนําเข้ามาในราชอาณาจักร
(๑๖) ให้ระบุข้อความ “สั่งจาก… (ชื่อผู้ผลิตและประเทศที่ผลิต)…” ในกรณีเป็นปุ๋ยที่ ผลิตแบบแบ่งบรรจุจากปุ๋ยที่นําเข้ามาในราชอาณาจักร
(๑๗) ให้ระบุข้อความ “ปุ๋ยอินทรีย์เม็ด” หรือ “ปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ด” หรือ “ปุ๋ย อินทรีย์ผง” แล้วแต่กระบวนการผลิตปุ๋ยอินทรีย์และตามที่ได้รับใบสําคัญการขึ้นทะเบียนปุ๋ยอินทรีย์ ไว้ที่ด้านข้างของฉลากให้เห็นได้ชัดเจน
(๑๘) ให้ระบุประเภทของปุ๋ยชีวภาพตามที่ได้รับใบสําคัญการขึ้นทะเบียนปุ๋ยชีวภาพ ใต้คําว่า “ปุ๋ยชีวภาพ”
ข้อ ๕ ขนาดฉลากต้องมีความเหมาะสมกับภาชนะบรรจุหรือหีบห่อ ข้อความและสี บนฉลากจะต้องมีความชัดเจนอ่านและเห็นได้ง่าย
ข้อ ๖ ข้อความอื่นที่กําหนดให้มีในฉลากที่ได้ดำเนินการไว้แล้วตามประกาศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง ข้อความอื่นที่กําหนดให้มีในฉลาก ตามพระราชบัญญัติปุ๋ย พ.ศ. ๒๕๑๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติปุ๋ย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐ พ.ศ. ๒๕๕๒ ก่อนหรือใน วันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ ให้ยังคงมีผลบังคับต่อไปจนกว่าใบสําคัญการขึ้นทะเบียนปุ๋ยหรือหนังสือ สำคัญรับแจ้งนั้นสิ้นอายุ โดยถือว่าเป็นฉลากที่ออกหรือดำเนินการตามประกาศนี้
ประกาศ ณ วันที่ ๑๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๕
ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ
เรื่อง ขอความอื่นที่รัฐมนตรีกําหนดใหมีในฉลากปุย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘
โดยที่เป็นการสมควรแกไขเพิ่มเติมประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ เรื่องขอความอื่นที่รัฐมนตรีกำหนดให้มีในฉลากปุ๋ย พ.ศ. ๒๕๕๕ ใหเหมาะสมยิ่งขึ้น
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๒๑ (๔) (ช) และ (๗) มาตรา ๒๑/๑ (๔) (ณ) และ (๗) มาตรา ๒๑/๒ (๔) (๔) และ (๗) แห่งพระราชบัญญัติปุ๋ย พ.ศ. ๒๕๑๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติปุ๋ย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกวา “ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ เรื่อง ข้อความอื่นที่รัฐมนตรีกำหนดใหมีในฉลากปุ๋ย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใชบังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้เพิ่มความต่อไปนี้ เป็น (๑๙) (๒๐) และ (๒๑) ของข้อ ๔ แห่งประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง ข้อความอื่นที่รัฐมนตรีกำหนดให้มีในฉลาก พ.ศ. ๒๕๕๕
“(๑๙) ให้ระบุข้อความว่า “วันผลิต…” โดยระบุ วันที่ เดือน และปี พ.ศ. ที่ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ และข้อความว่า “ควรใช้ก่อน…” โดยระบุ วันที่ เดือน และปี พ.ศ.
(๒๐) ให้ระบุข้อความ “สั่งจาก…(ชื่อผู้ผลิตแบบผสมและจังหวัด)…” ในกรณีเป็นปุ๋ยที่ผลิตแบบแบ่งบรรจุจากผู้ผลิตแบบผสม
(๒๑) ให้ระบุวัตถุอันเป็นส่วนประกอบของปุ๋ยอินทรีย์ ตามที่ระบุไว้ในใบสำคัญการขึ้นทะเบียนปุ๋ยอินทรีย์”
ข้อ ๔ ฉลากที่ได้ดำเนินการไว้แล้วตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง ข้อความอื่นที่รัฐมนตรีกำหนดให้มีในฉลากปุ๋ย พ.ศ. ๒๕๕๕ ก่อนหรือในวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับให้ใช้ได้ต่อไป แต่ทั้งนี้ ต้องไม่เกินสามร้อยหกสิบห้าวัน นับแต่วันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ
ประกาศ ณ วันที่ ๒๕ ๒๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๘
อำนวย ปะติเส
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ไม่เสียเวลา สะดวกเรื่องเอกสาร เริ่มขึ้นทะเบียนกับผู้เชี่ยวชาญวันนี้