สารเสริมประสิทธิภาพปุ๋ยและสารปรับสภาพดิน: ข้อกำหนดตาม สคบ.

สารเสริมประสิทธิภาพปุ๋ย & สารปรับสภาพดิน ที่ควบคุมฉลากโดย สคบ. — คู่มือสำหรับผู้ประกอบการ

ในประเทศไทย ผลิตภัณฑ์บางกลุ่ม เช่น “สารเสริมประสิทธิภาพพืช” และ “สารปรับสภาพดิน” แม้จะเกี่ยวเนื่องกับการเกษตร แต่ไม่ถูกจัดเป็น “ปุ๋ย” ตามพระราชบัญญัติปุ๋ย ทำให้การกำกับดูแลเรื่อง **ฉลาก (labeling)** อยู่ภายใต้กรอบของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) แทนการขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร ดังนั้นผู้ผลิตและผู้นำเข้าจำเป็นต้องทำฉลากให้สอดคล้องกับประกาศของ สคบ. เพื่อหลีกเลี่ยงโทษและปัญหาด้านการตลาด.

 

ภาพรวมกฎระเบียบ — ใครดูแลอะไร

  • กรมวิชาการเกษตร (DOA) กำกับดูแลผลิตภัณฑ์ที่จัดว่าเป็น “ปุ๋ย” ตามกฎหมายปุ๋ย และมีประกาศมาตรฐาน/ข้อกำหนดฉลากสำหรับปุ๋ย.
  • แต่สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ ไม่เข้าข่ายเป็นปุ๋ย เช่น สารเสริมประสิทธิภาพหรือสารปรับสภาพดิน สคบ. ระบุให้เป็น “สินค้าที่ควบคุมฉลาก” — ต้องติดฉลากตามเกณฑ์ สคบ. และหากฉลากไม่ถูกต้อง อาจมีบทลงโทษตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค.

 

สิ่งที่ฉลากต้องมีตามประกาศ สคบ. (สารปรับปรุงดิน / สารเสริมประสิทธิภาพ)

ประกาศของ สคบ. กำหนดองค์ประกอบฉลากอย่างชัดเจน — จุดสำคัญที่ต้องระบุในฉลากได้แก่:

  • ชื่อสินค้า / ชื่อการค้า และคำอธิบายประเภทผลิตภัณฑ์
  • ส่วนประกอบและปริมาณสารสำคัญ (เปอร์เซ็นต์ หรือความเข้มข้นตามประเภทของผลิตภัณฑ์)
  • คำแนะนำการใช้ — อัตราส่วน วิธีการใช้ และความถี่ในการใช้
  • วิธีการเก็บรักษา
  • คำเตือน อาการเกิดพิษ และวิธีแก้พิษเบื้องต้น (ถ้ามีความเสี่ยง)
  • ข้อมูลผู้ผลิต/ผู้นำเข้า — ที่อยู่ และประเทศผู้ผลิต
  • ข้อความบังคับในบางกรณี เช่น “ผลิตภัณฑ์นี้ไม่จัดเป็นปุ๋ยตามกฎหมายว่าด้วยปุ๋ย…” (ข้อความนี้ในขนาดอักษรที่กำหนด) — ข้อความและรูปแบบให้ตรวจประกาศล่าสุดก่อนพิมพ์ฉลาก.

 

Checklist ฉลาก (ตารางสรุปสั้น)

รายการควรมี/หมายเหตุ
ชื่อสินค้า/ประเภทระบุชัดเจน
ส่วนประกอบ/ความเข้มข้นร้อยละหรือมก./ลิตร
วิธีการใช้/อัตราการใช้ตัวอย่างการคำนวณต่อพื้นที่
คำเตือน/วิธีแก้พิษขนาดตัวอักษรต้องชัดเจน
ผู้ผลิต/ผู้นำเข้า (ที่อยู่)ที่อยู่และประเทศผู้ผลิต
ข้อความที่ระบุว่าไม่เป็นปุ๋ย (ถ้าจำเป็น)ขนาดตัวอักษรตามประกาศ

บทลงโทษและการบังคับใช้

สคบ. สามารถบังคับใช้บทลงโทษตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคหากฉลากไม่เป็นไปตามประกาศ — โทษมีตั้งแต่การเรียกแก้ไข แจ้งเตือน ปรับ และในบางกรณีอาจมีโทษจำคุกหรือปรับตามที่ประกาศกำหนด ดังนั้นการจัดทำฉลากให้ถูกต้องไม่ใช่เรื่องเลือกทำแต่เป็นความเสี่ยงทางกฎหมายที่ต้องจัดการอย่างจริงจัง.

 

ขั้นตอนปฏิบัติแนะนำสำหรับผู้ประกอบการ

  1. ตรวจสอบสถานะผลิตภัณฑ์ — ยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ของคุณเข้าข่าย “ปุ๋ย” หรือ “ผลิตภัณฑ์ควบคุมฉลาก” (สคบ.)
  2. อ่านประกาศฉลากล่าสุด — ดาวน์โหลดเอกสารประกาศจาก สคบ. และ DOA เพื่อเช็กข้อความ/ขนาดตัวอักษรที่ต้องมี. :contentReference[oaicite:5]{index=5}
  3. ออกแบบฉลากตามข้อกำหนด — รวมทั้งคำระบุว่า “ไม่จัดเป็นปุ๋ย” หากประกาศกำหนด
  4. จัดเตรียมเอกสารประกอบ — COA, ข้อมูลความปลอดภัย (MSDS), เอกสารการผลิต/นำเข้า
  5. ขอคำปรึกษาจาก สคบ./ผู้เชี่ยวชาญ — สคบ. มีช่องทางให้คำปรึกษา/สายด่วนสำหรับการจัดทำฉลาก (เช็กประกาศ/ช่องทางติดต่อในเว็บไซต์ สคบ.).

 

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q: หากผลิตภัณฑ์ของผมไม่ใช่ปุ๋ย แต่ใส่สารอาหารได้ ต้องทำอย่างไร?
A: ให้พิจารณาวัตถุประสงค์และส่วนประกอบ — หากไม่เข้าข่ายปุ๋ย ให้จัดทำฉลากตามประกาศ สคบ. และหลีกเลี่ยงข้อความที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเป็นปุ๋ย (ซึ่งอาจทำให้ตกอยู่ภายใต้กฎหมายปุ๋ยหรือสินค้าอันตรายได้).

 

อ้างอิงสำคัญ (ควรใส่ลิงก์ในหน้าจริง)

  • ประกาศ/แนวทาง สคบ. เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สารเพิ่มประสิทธิภาพพืช & สารปรับปรุงดิน. 
  • ประกาศกรมวิชาการเกษตร เรื่องข้อกำหนดฉลากและเกณฑ์ปุ๋ย (กรณีเทียบเคียง). 

สรุป

สารเสริมประสิทธิภาพและสารปรับสภาพดินเป็น “ผลิตภัณฑ์ควบคุมฉลาก” ที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค โดยเฉพาะการจัดทำฉลากให้ชัดเจน โปร่งใส และสอดคล้องกับประกาศของ สคบ. — ผู้ประกอบการควรตรวจสอบประกาศล่าสุด ออกแบบฉลากอย่างรอบคอบ และหากจำเป็น ขอคำปรึกษาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนนำสินค้าออกสู่ตลาด เพื่อป้องกันความเสี่ยงทางกฎหมายและความเสียหายต่อชื่อเสียงธุรกิจ.

ต้องการขึ้นทะเบียนปุ๋ย

ไม่เสียเวลา สะดวกเรื่องเอกสาร เริ่มขึ้นทะเบียนกับผู้เชี่ยวชาญวันนี้